เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบไหนดี
เลือกเครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบไหนดี
ขอบคุณรูปภาพจาก pngwing
เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อนThermal Print vs เครื่องพิมพ์บัตร Inkjet เลือกแบบไหนดี?
เมื่อทำการเปรียบเทียบเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติก เพื่อพิมพ์บัตรประจำตัว บัตรสมาชิก และบัตรอื่นๆ ที่มีการพิมพ์ข้อมูลบุคคลลงบนหน้าบัตร หากเราค้นหาข้อมูลจาก Internetเรามักจะพบเครื่องพิมพ์อยู่หลักๆ 2 ชนิดคือ เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อน(Thermal Print) และเครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet ในบทความนี้เรามาทำความรู้จัก เทคโนโลยีทั้งสองแบบ และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของแต่ละแบบ เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งาน
เครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet
หลายท่านมักจะคุ้นเคยกับการพิมพ์แบบ Inkjet เพราะเราใช้ในการพิมพ์เอกสารทั่วไป ลักษณะการพิมพ์จะประกอบไปด้วยหัวพิมพ์ที่ทำหน้าที่ฉีดสี ตัวหมึกสีเป็นลักษณะของเหลว แยกเป็นสีอย่างชัดเจน โดยเครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกสีแต่ละสีเป็นหยดเล็กๆ ลงบนพื้นผิว การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้พิมพ์พื้นผิวที่เป็นบัตร PVC หมึกสีเหล่านี้จะถูกพ่นและแห้งบนพื้นผิว ของแผ่นบัตร PVC โดยทั่วไป เราจะเห็นเครื่องพิมพ์เหล่านี้ใช้กับการพิมพ์กระดาษเอกสารมากกว่า เนื่องจากหมึกที่เป็นของเหลวจะซึมและยึดติดได้ดีบนกระดาษ
ข้อดี อย่างแรกของเครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet คือ ราคาถูก เนื่องจากเป็นเครื่องพิมพ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป น้ำหมึกของ Inkjet หาเติมได้ตามร้านทั่วไป หมึกแท้ หรือหมึกเทียม มีให้เลือกตามความพึงพอใจในราคาไม่แพง สามารถพิมพ์ได้ทั้งกระดาษ และบัตรพลาสติก
ข้อเสีย เครื่องพิมพ์ Inkjet เหล่านี้ ทางผู้ผลิต ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า ใช้สำหรับพิมพ์บัตรพลาสติก ช่องใส่บัตร ที่เดิมทีใช้เพื่อใส่กระดาษ A4 ผู้ขายได้สร้างถาดรองรับบัตร เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการใส่บัตรพลาสติก เรียกว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวิธี หากเครื่องพิมพ์เกิดปัญหาขึ้น ผู้ผลิต จะไม่รับผิดชอบ การซ่อมแซม ดูแลรักษาต้องได้รับการดูแลโดยผู้ที่นำมาจำหน่ายเท่านั้น การใช้งานแบบพิมพ์ต่อเนื่องไม่สามารถทำได้ ทำให้การพิมพ์ทำได้ครั้งละน้อยๆ
เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อน (Thermal Print)
เครื่องพิมพ์บัตรประเภทนี้ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการพิมพ์บัตรพลาสติก PVC โดยเฉพาะ เทคโนโลยีการพิมพ์จะใช้หัวพิมพ์ ที่เป็นแท่งทำความร้อน ทำการระเหิดสีจากRibbonเข้าไปในเนื้อบัตรพลาสติก (การระเหิดคือการใช้ความร้อน เปลี่ยนแผ่นRibbonสีที่เป็นของแข็ง ให้กลายเป็นก๊าซอย่างรวดเร็ว) ลักษณะของRibbonจะแบ่งเป็นแถบสีต่างๆ เช่น Yellow (Y), Magenta (M), Cyan (C), Black (K) และ TOPCOAT (T) โดยการพิมพ์บัตร 1 หน้า หรือ รูปภาพ 1 รูป แถบสีต่างๆจะถูกใช้ได้เพียงครั้งเดียว ผ่านหัวพิมพ์ความร้อน ผสมสีแต่ละสีเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปภาพ จะเกิดจากการปรับระดับความร้อนอย่างแม่นยำ นอกจากนั้นยังสามารถใช้เทคนิคนี้ในการเคลือบ TOPCOAT ที่เป็นลักษณะพื้นผิวใสๆลงบนผิวบัตรเป็นชั้นสุดท้าย เพื่อความคงทน ซึ่งส่วนนี้ เทคโนโลยีแบบ Inkjet จะไม่สามารถทำได้ หากต้องการจำเป็นต้องเคลือบผิวบัตรเพื่อความคงทน จำเป็นต้องมีเครื่องเคลือบบัตรแยกกระบวนการทำงานออกมาอีกต่างหาก
ข้อดี เป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์บัตรประจำตัวพลาสติกโดยเฉพาะ สีถูกย้อมเข้าไปในเนื้อบัตรพร้อมด้วยการเคลือบ TOPCOAT ทำให้ได้คุณภาพที่คงทนกว่าการพิมพ์แบบ Inkjet ที่สีที่เป็นของเหลวถูกพ่นแห้งบนผิวบัตร อีกทั้งยังสามารถเพิ่มOptionsต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำบัตรประจำตัวพลาสติกได้อีกมากมาย เช่น การพิมพ์บัตรสองด้านกลับบัตรอัตโนมัติ, การพิมพ์บัตรประจำตัวที่ลงข้อมูลบุคคลได้แบบต่อเนื่อง, การเขียนข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก, การอ่าน/เขียนข้อมูลลงบัตรสมาร์ทการ์ด
ข้อเสีย หัวพิมพ์ความร้อนออกแบบมาเพื่อพิมพ์บัตรพลาสติก PVC เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับการพิมพ์วัสดุชนิดอื่นได้ ตัวเครื่องพิมพ์มีราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet แต่ด้วยการที่เป็นเครื่องพิมพ์บัตรเฉพาะทาง การรับประกันและประสิทธิภาพการทำงานย่อมมีสูงกว่าหลายเท่า
เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อนThermal Print vs เครื่องพิมพ์บัตร Inkjet เลือกแบบไหนดี?
เมื่อทำการเปรียบเทียบเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติก เพื่อพิมพ์บัตรประจำตัว บัตรสมาชิก และบัตรอื่นๆ ที่มีการพิมพ์ข้อมูลบุคคลลงบนหน้าบัตร หากเราค้นหาข้อมูลจาก Internetเรามักจะพบเครื่องพิมพ์อยู่หลักๆ 2 ชนิดคือ เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อน(Thermal Print) และเครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet ในบทความนี้เรามาทำความรู้จัก เทคโนโลยีทั้งสองแบบ และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของแต่ละแบบ เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งาน
เครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet
หลายท่านมักจะคุ้นเคยกับการพิมพ์แบบ Inkjet เพราะเราใช้ในการพิมพ์เอกสารทั่วไป ลักษณะการพิมพ์จะประกอบไปด้วยหัวพิมพ์ที่ทำหน้าที่ฉีดสี ตัวหมึกสีเป็นลักษณะของเหลว แยกเป็นสีอย่างชัดเจน โดยเครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกสีแต่ละสีเป็นหยดเล็กๆ ลงบนพื้นผิว การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้พิมพ์พื้นผิวที่เป็นบัตร PVC หมึกสีเหล่านี้จะถูกพ่นและแห้งบนพื้นผิว ของแผ่นบัตร PVC โดยทั่วไป เราจะเห็นเครื่องพิมพ์เหล่านี้ใช้กับการพิมพ์กระดาษเอกสารมากกว่า เนื่องจากหมึกที่เป็นของเหลวจะซึมและยึดติดได้ดีบนกระดาษ
ข้อดี อย่างแรกของเครื่องพิมพ์บัตรแบบ Inkjet คือ ราคาถูก เนื่องจากเป็นเครื่องพิมพ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป น้ำหมึกของ Inkjet หาเติมได้ตามร้านทั่วไป หมึกแท้ หรือหมึกเทียม มีให้เลือกตามความพึงพอใจในราคาไม่แพง สามารถพิมพ์ได้ทั้งกระดาษ และบัตรพลาสติก
ข้อเสีย เครื่องพิมพ์ Inkjet เหล่านี้ ทางผู้ผลิต ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า ใช้สำหรับพิมพ์บัตรพลาสติก ช่องใส่บัตร ที่เดิมทีใช้เพื่อใส่กระดาษ A4 ผู้ขายได้สร้างถาดรองรับบัตร เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการใส่บัตรพลาสติก เรียกว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวิธี หากเครื่องพิมพ์เกิดปัญหาขึ้น ผู้ผลิต จะไม่รับผิดชอบ การซ่อมแซม ดูแลรักษาต้องได้รับการดูแลโดยผู้ที่นำมาจำหน่ายเท่านั้น การใช้งานแบบพิมพ์ต่อเนื่องไม่สามารถทำได้ ทำให้การพิมพ์ทำได้ครั้งละน้อยๆ
เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อน (Thermal Print)
เครื่องพิมพ์บัตรประเภทนี้ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการพิมพ์บัตรพลาสติก PVC โดยเฉพาะ เทคโนโลยีการพิมพ์จะใช้หัวพิมพ์ ที่เป็นแท่งทำความร้อน ทำการระเหิดสีจากRibbonเข้าไปในเนื้อบัตรพลาสติก (การระเหิดคือการใช้ความร้อน เปลี่ยนแผ่นRibbonสีที่เป็นของแข็ง ให้กลายเป็นก๊าซอย่างรวดเร็ว) ลักษณะของRibbonจะแบ่งเป็นแถบสีต่างๆ เช่น Yellow (Y), Magenta (M), Cyan (C), Black (K) และ TOPCOAT (T) โดยการพิมพ์บัตร 1 หน้า หรือ รูปภาพ 1 รูป แถบสีต่างๆจะถูกใช้ได้เพียงครั้งเดียว ผ่านหัวพิมพ์ความร้อน ผสมสีแต่ละสีเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปภาพ จะเกิดจากการปรับระดับความร้อนอย่างแม่นยำ นอกจากนั้นยังสามารถใช้เทคนิคนี้ในการเคลือบ TOPCOAT ที่เป็นลักษณะพื้นผิวใสๆลงบนผิวบัตรเป็นชั้นสุดท้าย เพื่อความคงทน ซึ่งส่วนนี้ เทคโนโลยีแบบ Inkjet จะไม่สามารถทำได้ หากต้องการจำเป็นต้องเคลือบผิวบัตรเพื่อความคงทน จำเป็นต้องมีเครื่องเคลือบบัตรแยกกระบวนการทำงานออกมาอีกต่างหาก
ข้อดี เป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์บัตรประจำตัวพลาสติกโดยเฉพาะ สีถูกย้อมเข้าไปในเนื้อบัตรพร้อมด้วยการเคลือบ TOPCOAT ทำให้ได้คุณภาพที่คงทนกว่าการพิมพ์แบบ Inkjet ที่สีที่เป็นของเหลวถูกพ่นแห้งบนผิวบัตร อีกทั้งยังสามารถเพิ่มOptionsต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำบัตรประจำตัวพลาสติกได้อีกมากมาย เช่น การพิมพ์บัตรสองด้านกลับบัตรอัตโนมัติ, การพิมพ์บัตรประจำตัวที่ลงข้อมูลบุคคลได้แบบต่อเนื่อง, การเขียนข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก, การอ่าน/เขียนข้อมูลลงบัตรสมาร์ทการ์ด
ข้อเสีย หัวพิมพ์ความร้อนออกแบบมาเพื่อพิมพ์บัตรพลาสติก PVC เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับการพิมพ์วัสดุชนิดอื่นได้ ตัวเครื่องพิมพ์มีราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet แต่ด้วยการที่เป็นเครื่องพิมพ์บัตรเฉพาะทาง การรับประกันและประสิทธิภาพการทำงานย่อมมีสูงกว่าหลายเท่า
เพื่อคุณภาพการใช้งานของบัตรที่จะคงทน เอิงก็อยากจะแนะนำเครื่องพิมพ์บัตร ThermalPrint เหมือนลงทุนครั้งเดียวอายุการใช้งานบัตรและเครื่องก็จะใช้งานได้นานมากกว่านะคะ
ติดต่อมาได้เลยนะคะ เอิงยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
เครื่องพิมพ์บัตร